เมื่อเป็นเด็กได้บวชเณร บวชเรียนอยู่วัดดอนปิ่นได้ ๖ พรรษา
หลังจากนั้นเป็นทหาร ๒ ปี (พ.ศ. ๒๕๒๖) จนอายุ ๒๒ (พ.ศ. ๒๕๒๘)
ออกมารับจ้างเป็นลูกน้องเจ้าหน้าที่โครงการหลวง
ที่หมู่บ้านแม่สะป๊อกใต้ ทำหน้าที่ช่วยชาวบ้าน
มีโอกาสเห็นโครงการสร้างเรือนไม้ ในพื้นที่โครงการหลวง
จึงสนใจและเรียนรู้วัสดุ-งานไม้ จากการศึกษาเรียนรู้ เกิดความรู้สึกชอบ
รักในไม้ เพราะไม้มีชีวิต ไม้ดิ้นได้ สื่อความรู้สึกสบาย
จึงเริ่มเก็บสะสมไม้ท่อนจากการซื้อจากชาวบ้าน
เนื่องจากในพื้นที่หมู่บ้านเป็นชนเผ่ากะเหรี่ยง มีประเพณีในการตัดไม้
การตัดเองจึงเป็นเรื่องผิดกฎประเพณี
ส่วนใหญ่ไม้ที่สะสมได้คือไม้สักเคียน (ตะเคียน) เก็บสะสม ๑ ปี
จึงยกขนมาไว้ที่สันป่าตองและสร้างเรือนของตนเองขึ้น
โดยขอแรงจากชาวบ้านมาช่วยในการปกเสา มุงหลังคา
หลังจากนั้นก็สร้างส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วยตนเอง โดยใช้ฐานความรู้ขาก
“ครูพักลักจำ” ที่เคยเห็นมา แบบแปลนก็เป็นแบบชาวบ้านธรรมดา
ซึ่งปัจจุบันเรือนหลังนี้ได้ถูกรื้อเนื่องจากน้ำท่วม
และนำไม้จากการรื้อมาสร้างหลังปัจจุบัน ในระหว่างที่สร้างเรือนตนเอง
ก็รับจ้างสร้างเรือนต่าง ๆ เป็นลูกน้องของสล่ารุ่ง (พ.ศ.๒๕๓๐)
ทำงานที่ดาราเทวีประมาณ ๔-๕ ปี จึงทำให้มีประสบการณ์งานไม้
สามารถนำวัสดุเหลือใช้จากไม้ มาดัดแปลง สร้างเรือนใหม่
และประกอบอาชีพงานรับเหมาต่าง ๆ ในปัจจุบัน
“ยังนำวัสดุไม้มาใช้ในการสร้างเรือน และยังคงใช้เครื่องมือมืออยู่
ผลงานที่ภาคภูมิใจในช่วงการเป็นช่างคือ วิหารไตลื้อ โรงแรมดาราเทวี”